Forward email เรื่องไสยศาสตร์แบบที่ 1


Forward email เรื่องไสยศาสตร์แบบที่ 1
Forward email ฉบับนี้ มีผู้ส่งเวียนออกมาในกลุ่มศิษย์สวนสันติธรรม ภายหลังจากที่พระปราโมทย์เทศน์ เรื่องคุณไสยในวันที่ 21 มกราคม 2553 และเป็นผู้ให้ "รายละเอียด" ต่างๆผ่านคนสนิทบางท่านให้มากระจายต่อ ดังปรากฏใน Forward email ฉบับที่ 2 (ลงวันที่ 22 มกราคม 2553 ซึ่งเป็นวันรุ่งขึ้น)
เป็นที่น่าสังเกตว่า มีการกล่าวถึงเรื่องไสยศาสตร์และอ้างหลักการมากมาย แต่ผลสรุปคือ เนื้อความใน email แฝงความหมายต่อไปนี้ไว้อย่างครบถ้วน ….
1. อย่าไปในทุกที่ๆอาจเปิดโปงเรื่องโกหกของพระปราโมทย์ได้ โดยเฉพาะสวนพุทธธรรม-ป่าละอู ซึ่ง "เผอิญ" เป็นวัดของหลวงพ่อมนตรี ศิษย์อาวุโสของหลวงปู่ดูลย์ ซึ่งพระปราโมทย์นำมาอ้างเท็จไว้ และเพิ่งถูกบ้านอารีย์ แจ้งว่าเป็นเรื่องหลอกลวง 3 วันก่อนหน้านั้นพอดี (อ้างถึงเรื่องผีตายโหงเข้าจิต / เป็นธรรมชาติที่ผู้ศรัทธา จะต้องการไปสอบถามหลวงพ่อมนตรีท่านทันที พระปราโมทย์จึงพยายามสกัดกั้นด้วยการ "ห้ามถาม" "ห้ามฟัง" "ห้ามถกกัน" เพราะเป็นหนทางที่ญาติโยมจะสอบทานทั้งสองทางและจับโกหกตนได้)
2. ห้ามฟังข้อมูลเพิ่มเติมหรือยืนยันเกี่ยวกับพระปราโมทย์โดยเด็ดขาด (อ้างว่า เพียงรับฟังหรือพูดด้วย ก็จะโดน "ของเข้า")
3. ถ้าเริ่มมีความสงสัยว่าพระปราโมทย์อาจโกหกจริง ให้หยุดสงสัย แล้วหันมาสรุปว่า เป็นเพราะตนเองคงจะ "ถูกคุณไสย" แทน
4. ห้ามสงสัย ปรามาส หรือแม้แต่วิเคราะห์ วิจารณ์ หรือถกกันเรื่องพระปราโมทย์โกหกจริงหรือไม่โดยเด็ดขาด (อ้างว่าจะบาปมาก และ "เสียอนาคต" การภาวนาไปเลย โดยอาศัยจุดอ่อนของคนส่วนใหญ่ที่มาศรัทธา เพราะอยากปฏิบัติสบายๆได้มรรคผลง่ายๆเป็นหลัก มากระตุ้นให้กลัวไม่ได้มรรคผล (เป็นมรรคผลรูปแบบเฉพาะ ที่พระปราโมทย์กำหนดขึ้นใช้เองในสวนสันติธรรม ไม่ได้เป็นมรรคผลจริงที่มีในพุทธศาสนา) / ขณะนั้นยังไม่มีผู้นำหลักฐานการโกหกของพระปราโมทย์อีกหลายประเด็นออกมาแสดงชัดเจนมากเท่าขณะนี้)
5. เมื่อมีคนเสื่อมศรัทธาเพราะรู้ความจริงเกี่ยวกับพระปราโมทย์ อย่าไปทะเลาะ โต้เถียง ถกหรือถามความเห็น ให้เมตตา แต่อย่าไปรับฟังเด็ดขาด ถ้าเขาพูดอะไรมา อย่าถือเป็นสาระนำมาพิจารณา ให้สรุปว่า เขา "ถูกของ" จึงพูดเช่นนั้น ส่วนพระปราโมทย์นั้น จะได้อยู่ในฐานะผู้บริสุทธิ์และไม่น่าสงสัยเลย (อ้างเรื่องปรามาส "พระอริยะ" และขู่ว่าจะเป็น กรรมหนัก)
6. ขออย่าไปสนใจเรื่องจับโกหกพระปราโมทย์ แต่ให้รีบๆลืมไปเสีย และรีบภาวนา และกลับมาศรัทธาตามแนวทาง ของพระปราโมทย์ จะได้สำเร็จเป็นอริยะบุคคลโดยง่ายและโดยเร็วต่อไป (เป็นเทคนิค ที่ใช้บ่อย ซึ่งประกอบด้วย ทั้งคำขู่และให้ความหวังพร้อมๆกัน โดยพยายามย้ำข้อความว่า "พวกเราพบทางที่ถูกแล้ว อย่าไปสนใจ อย่างอื่น อย่าเลิกศรัทธาพระปราโมทย์" ซึ่งจะไม่เป็นจริงเลย ถ้าผู้คนพิสูจน์ได้ว่า แม้แต่ผู้สอนก็ยังไม่ใช่ พระอริยะ และยังเป็น
ผู้ผิดศีล 5 หลอกลวง ห่วงลาภสักการะอยู่ / สิ่งเดียวที่พระปราโมทย์สนใจเป็นหลักในขณะนั้น ไม่ใช่สวัสดิภาพของญาติโยม แต่กำลังกลัวสูญเสียคนศรัทธา เพราะหากญาติโยมจับโกหกได้ชัดๆอย่างหนึ่ง ก็จะเริ่ม เฉลียวใจ และจับโกหกเรื่องต่อๆไปได้)
7. ขอให้ญาติโยมตั้งอยู่ในความกลัว-ระแวงมากๆและระวังตัวตามเนื้อความที่ email กล่าวมา ไม่เฉพาะช่วงนี้ แต่ต่อไปทุกๆวัน (อ้างถึงเรื่องต้องทำน้ำมนต์ทุกวัน