สงสารหลวงพ่อปราโมทย์ (เมษายน ๒๕๕๓)


สงสารหลวงพ่อปราโมทย์
ความในใจของ “วงใน” คนหนึ่ง

     จากข้อมูลของผู้ที่ไปสวนพุทธธรรม ป่าละอู เมื่อ ๒๖ มี.ค ๒๕๕๓ สร้างความสงสัยในใจศิษย์วงในเป็นอันมากประกอบกับความสงสัยว่า พระอริยะโกหกได้อย่างไร 

ในเมื่อทุกคนวงในรู้ดีว่าท่านปราโมทย์ประกาศเสมอกับคนวงในว่าท่านจบกิจในอริยสัจจ์แล้ว ไม่มีอะไรต้องปฏิบัติอีก 

แต่กลับมาโกหกว่า ตนไม่เคยพูดว่าเป็นอริยะขั้นไหนๆ และไม่เคยรับรองว่าใครเป็นอริยะ ทั้งๆที่รู้ กันยิ่งกว่ารู้ แต่แก้ตัวยิ่งกว่านักการเมือง ทำให้หลายคนถึงกับท้อใจว่าผู้ปฏิบัติที่พูดธรรมะได้แจ่มแจ้งแต่รักษาศีลไม่ได้ เพราะธรรมะไม่เคยเข้าถึงใจเลยหรือ

ไม่นานมานี้ พระโสดาบันคุณนายข้าราชการยังออกมาพูดว่า หลวงพ่อบอกว่า นายนักเขียนชาย(ระดับเบสท์เซลเลอร์)โสดาไม่ใช่พระโสดาบัน เลย

พอมีคนสอบถามทั้งหลวงพ่อและแม่ชีตอบว่า เมื่อก่อนไม่ค่อยได้เห็นเขา แต่ตอนนี้เห็นบ่อยเลยรู้ว่าเขาไม่ใช่พระโสดาบัน (ทั้งๆที่รับรองเขามาเป็น 10 ปี) และเตรียมลดบทบาทเขาในสวนสันติธรรม

มีคนสงสัยว่าเห็นเมื่อก่อนเคยใช้เขาเป็นผู้รับรองว่าจิตท่านเหมือนจิตพระอรหันต์ตัวจริง แล้วทำไมตอนนี้ กลับลดขั้นเขาลงมาเป็นคนธรรมดาเสียแล้ว ทำไมตำแหน่งพระอริยะบุคคลที่นี่ถึงเป็นง่ายหลุดง่ายยิ่งกว่าตำแหน่งนักการเมืองอีก หรือเป็นกลยุทธ์อะไรของ กอ.รมน. เก่า

วงในกว่าบอกว่าหลวงพ่อใช้ให้นักเขียนชายโสดาบันไปทำบางอย่างให้ แต่นักเขียนชายโสดาบันปฏิเสธ อาจเป็นเหตุให้ถูกปลด บางกระแสก็ว่า ตั้งโสดาของตัวเองเยอะแล้ว ไม่อยากให้นักเขียนมาใช้สวนฯเป็นฐานแบ่งสาวกหากิน แต่ที่ได้ยินบ่อยสุด คือ มีปัญหากับลูกศิษย์สาวๆหลายคดี ชักจะดูไม่ปลอดภัย ถ้าไม่รีบปลด เดี๋ยวคนจับได้ว่าเก๊ทั้งท่านและนักเขียน

หลังจากนั้นก็มีประกาศจากสวนพุทธธรรม ป่าละอู ออกมา ทำให้หลวงพ่อปราโมทย์ต้องระงับการดิสเครดิตนักเขียนชายโสดาบันไว้ก่อน โดยบอกศิษย์ฝ่ายดำเนินการปลดว่า ยังไงเขาก็รักหลวงพ่อ

ถึงแม้พระโสดาคุณนาย ต้องการเร่งมือปลดเพียงใด ก็จำเป็นต้องระงับไว้ก่อน
แต่หลายคนที่รู้เรื่องแล้วเริ่มสงสัยว่า ถ้าเป็นพระอริยะจริงๆจะไม่หลอกใช้คน

นักเขียนชายโสดาบัน อุตส่าห์ทุ่มสุดตัว ทั้งโปรโมทเรื่องคุณไสยมนต์ดำ กล้องเกอร์เลี่ยน เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือคนจะได้ไม่เอะใจสงสัย เพราะรู้ดีว่าถ้าคนรู้ความจริงว่าท่านปราโมทย์เป็นของเก๊ ตนก็เป็นของเก๊ไปด้วย แต่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่า ตนถูกประกาศในวงในไปแล้วว่าเป็นของเก๊ แค่ยังไม่ทำเป็นวงกว้าง เพราะหลวงพ่อปราโมทย์ไม่อยากเปิดศึกหลายด้าน และในภาวะเพลี่ยงพลำ้ตอนนี้ จำเป็นต้องใช้เบี้ยทุกตัวออกไปตายแทน

คนวงในที่รู้ตอนนี้จึงเริ่มสงสัยว่า พระอริยะบุุคคลทุกคนที่ท่านปราโมทย์เคยรับรอง ที่เคยหลงกราบหลงไหว้ ว่าตกลงเป็นของเก๊กันทุกคนหรือเปล่า บางคนเป็นคนนิสัยดีน่ารักด้วย และสุดท้ายตัวหลวงพ่อที่รับรองเองก็เป็นของเก๊ ตามอีเมล์สามฉบับของป่าละอู ที่ว่าท่านปราโมทย์ไม่มีศีล หรือเปล่า

แต่ถ้าเป็นของเก๊แล้ว เรื่องเล่าที่เอามาเล่ากันภายในที่รู้ๆกันก็โกหกทั้งเพ ทำใจไม่ได้เลย เป็นไปได้ไหมว่าท่านป่วย ความจำยิ่งเกิน สติยิ่งเกิน ความรู้ในพระไตรปิฏกยิ่งเกิน จิตไปติดสภาวะยิ่งเกิน จนคิดว่าตนเป็นพระอรหันต์จริง เหมือนที่ครูบาอาจารย์ต้องไล่เปิดไปบ่อยๆ

จะว่าเป็นวิปัสสนูฯก็คงไม่ใช่ เพราะครูบาอาจารย์ก็ชี้มาว่า ชนิดนี้จะเรียกวิปัสสนูฯไม่ได้ เพราะมีการวางแผนหลอกล่อ ปล่อยข่าวแก้สถานการณ์ หลอกคนไปเป็นขั้นๆ 

ทำไมไม่มีใครสงสารและช่วยหลวงพ่อของฉันเลย ท่านคงไม่รู้ตัว เพราะจิตมันสร้างภาพไป เวลาคิดจะโกหก ก็คิดว่าเพื่อประโยชน์ทางธรรม และคิดว่าจิตเป็นคนละส่วนกับขันธ์ที่คิดและทำไม่ดี เวลาพูดส่อเสียดยุยงคนก็ไม่รู้ตัว คนฟังก็รู้สึกภูมิใจว่าเราสำคัญนะ พระอรหันต์ถึงมานินทาคนนั้นให้ฟัง

สงสารท่านจังเลย ไม่รู้ไปทำวิบากอะไรไว้จิตถึงได้ไปติดสภาวะนี้ ครูบาอาจารย์บอกว่าทำกรรมหนักยิ่งกว่าพระเทวทัตอีก ถ้าไม่มีใครช่วยเตือนสติท่าน ท่านคงหลงไปจนตายแล้วต้องไปใช้กรรมอีกนานแค่ไหน

อย่าปล่อยให้ท่านเพี้ยนมากไปกว่านี้เลยเพราะพวกเราเองก็จะผวาไปด้วย

================================================


จดหมายฉบับนี้ มีผู้ที่เห็นด้วยกับ Antiwimutti ส่งมาให้
ทางทีมงานได้ตรวจสอบถึงบุคคลหลายคนที่ถูกอ้างถึงในจดหมาย พบว่ามีตัวตนจริง และถูกต้องตามเนื้อความ จึงนำมาลงไว้ ณ ที่นี้
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศิษย์ลานธรรมเก่าๆ เพื่อนรวมงานที่องค์การโทรศัพท์ หรือ กรรมการที่ลาออกไป หรือที่ info@antiwimutti.net