เขียนถึงหลงพ่อปราโมทย์ - พระอรหันต์จอมปลอมของผม


พระอรหันต์จอมปลอมของผม
Pseudo-Arahant


        หลงพ่อครับ ผมไม่มีการบ้านจะส่ง มีแต่คำถามเต็มสมองและหัวใจเลยฮับ

        หลงพ่อครับ หลงพ่อสอนให้พวกเรารักษาศีล 5 เราก็ตั้งใจรักษา แต่แล้วกลับพบว่า หลงพ่อผิดศีลซะเอง ขนาดว่าผมไม่ฟังคำเล่าลือ ผมยังเห็นด้วยลูกกะตามัวๆ ได้ยินด้วยหูตึงๆ ของตัวเองเลยว่า หลงพ่อผิดศีลข้อ 2 กับข้อ 4 หลายทีแล้ว พระอริยะตั้งแต่โสดาบันขึ้นไปไม่อาจผิดศีลอีกแล้วไม่ใช่หรือครับ? หลงพ่อเล่าบ่อยๆ ว่าหลงพ่อบรรลุธรรมจบทั้ง 4 ขั้นอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วทำไมหลงพ่อผิดศีลเป็นว่าเล่นล่ะครับ?

        หลงพ่อสอนให้เราฝึกดูจิตดูใจดูกิเลสตัวเอง แต่หลงพ่อลืมดูจิตของหลงพ่อเองเหรอครับ? หลงพ่อถึงได้อาศัยโมหะ หลงละเมอเพ้อไปว่าตัวเองเป็นพระอริยะ เก่งกาจกว่าใครๆ ทั้งสามโลกธาตุ แค่ภาวนาดูจิตสบายๆ ก็ได้เป็นพระอรหันต์แล้ว... โลภะ มีรีสอร์ท 50 ไร่คล้ายๆ จะเป็นของตัวเอง เงินทองไหลมาเทมา ลาภสักการะมหาศาล มีลูกจ้างทำงานสารพัด มีตำรวจอารักขาหน้ารีสอร์ท... และโทสะ ริษยาอาฆาตปรารถนาความยิ่งใหญ่ ใครขวางเป็นเจอด่า ป้ายสี เหน็บแนม ถากถางลง cd ให้ได้ยินกระฉ่อนไปทั่วโลก แล้วหลงพ่อก็รังแกเบียดเบียนดวงจิตดวงใจที่บริสุทธิ์ของพวกเราให้กลายเป็นมิจฉาทิฏฐิ เบียดบังเงินทองที่หามาลำบากยากเย็นของคนนับหมื่นนับแสนนับล้าน หลงพ่อสอนผิดสอนเพี้ยน สอนให้เราเห็นพยับแดด ฟองน้ำว่าเป็นของจริง ทำให้คนเข้าใจการภาวนาบิดเบือนอย่างรุนแรง จนจิตพวกเราจะต้องจำสิ่งผิดๆ นี้ไปอีกนานกี่กัปกี่กัลป์ก็ไม่รู้ หลงพ่อเคยเทศน์ว่า ‘ใครอย่ามาผูกพันกับหลงพ่อนะ เพราะหลงพ่อไม่ผูกพันกับใคร’ … ก็คงจริงครับ หลงพ่อผูกพันแต่กับกิเลสของตัวเอง หลงพ่อรักใครไม่เป็น 

        หลงพ่อสอนให้พวกเรากตัญญูต่อพ่อแม่ อย่าขัดใจท่าน อย่าทำให้พ่อแม่เสียใจ หลงพ่อยังสอนอีกว่ากับครูบาอาจารย์เราต้องเคารพเทิดทูนชนิดเอาหัวรองให้ท่านเหยียบก็ยังได้ (ก็ใช่สิฮับ หลงพ่อกะเหยียบหัวพวกเราขึ้นบัลลังก์...) ท่านสั่งให้ทำอะไรก็ทำ ไม่มีเถียงสักคำ ใช่ครับ หลงพ่อไม่เคยเถียงสักคำ แต่หลงพ่อเอาพ่อแม่ครูอาจารย์ทุกๆ องค์มาขายกิน เพื่อลาภสักการะ เพื่อบัลลังก์ (กว้างๆหน่อยเพราะหลงพ่ออ้วนขึ้นทุกวัน) เอาศรัทธาของคนบริสุทธิ์ “ตาแป๋วๆ เห็นแล้วน่าสงสาร” นับจำนวนไม่ถ้วนไปเป็นเครื่องมือปกป้องปกปิดความไม่น่ารัก (อัป+ปิยะ ...) ความไม่ใช่กัลยาณมิตร (ปาปมิตร) ของหลงพ่อ ให้พวกเราเข้าใจผิดกัน รบราฆ่าฟันกันเองทางเน็ต รุ่นหนึ่งตายไป รุ่นต่อมาก็ตกเป็นเหยื่อของหลงพ่ออีก เหมือนระลอกคลื่นที่ไม่สิ้นสุด

        หลงพ่อเน้นสอนเรื่องความกตัญญูมาแต่ไหนแต่ไร เพราะหลงพ่อเคยมีประสบการณ์มาตั้งแต่เป็นฆราวาสแล้วนะสิ พอลูกศิษย์ไม่รักชั่วบางคนจะหนีหลงพ่อไป เพราะเห็นความจริงเรื่องไหนของหลงพ่อสักเรื่องสองเรื่อง จับได้ว่าครูเราเป็นของปลอม หลงพ่อต้องรีบสกัดไว้ อ้างความกตัญญู เขาจะได้ไม่หันกลับมาโจมตีหลงพ่อ ด้วยเกรงใจในความเป็นครูอาจารย์กันมาก่อน กลัวจะเป็นคนอกตัญญู เมื่อเขาหายไปเงียบๆ หลงพ่อก็ถือโอกาสหลอกลวงคลื่นลูกใหม่ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวต่อไป

        หลงพ่อหลอกลวงเจ้าเล่ห์เจ้ากลเจ้ามนต์ดำอย่างนี้ แย่ยิ่งกว่าลอร์ดโวลเดอมอร์ บวก ลอร์ดซอรอน อีกนะครับ เพราะหลงพ่อเล่นอาศัยเครื่องแบบ อาศัยผ้ากาสาวพัสตร์อันศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธเจ้า อาศัยพระธรรมคำสอนที่สืบทอดมาจากพระพุทธองค์ พระอรหันตสาวก จนถึงรุ่นหลวงปู่มั่น หลวงปู่ดูลย์ หลวงปู่เทสก์ หลวงปู่สิม หลวงปู่สุวัจน์ หลวงพ่อพุธ หลวงปู่มหาบัว ฯลฯ แทบหมดสายธรรมยุติ ลามไปถึงสายหลวงปู่ชา หลวงปู่บุดดา หลวงพ่อเทียน ท่านพุทธทาส ฯลฯ แทบจะหมดประเทศไทย  หลงพ่ออาศัยคำสอนคือพระสัทธรรมอันงดงาม ปราณีต ลึกซึ้ง ทั้งหมดนั้น เอามาบิด ปรับ ปรุง ตัด แต่ง เติม ต่อ จน(อ)ธรรมะของหลงพ่อกลายเป็น fast food แต่แย่กว่าอีก เพราะหลงพ่อตัดแต่งพันธุกรรมเอายีนส์สำคัญคือ สมาธิ ออกเสีย หลงพ่อบอกว่าเสียเวลา ไม่จำเป็นสำหรับคนเมืองอย่างเรา เราก็โง่ เชื่อหลงพ่อหมดหัวใจ กินไปแรกๆ มันก็เห็นผลว่าอิ่ม อร่อย ง่าย เร็ว แต่ต่อมาก็เข้าข่ายสะสมไขมัน เป็นพิษ อ้วน กิเลสหนา ปัญญาทึบไม่รู้ตัว แล้วก็เสพติดหลงพ่อยิ่งกว่ายาอียาไอซ์ เพราะหลงพ่อมีของเล่นที่เป็น promotion มายั่วบ่อยๆ “ภาวนาดีแล้วนะ ไปทำต่อ” “ที่ภาวนาอยู่ ดีขึ้นนะ” พวกเราก็ลิงโลดสิ สะสมแต้มเข้าไป “เห็นมั๊ยว่าจิตเราเปลี่ยน มันโปร่ง โล่งเบาขึ้น” “เห็นมั๊ยว่าโลกมันอยู่ห่างๆ” ฮี่ ยังไม่เห็นหรอก แต่หลงพ่อว่าไงก็ว่าตามกัน เพราะหลงพ่อบอกว่า “บางที เวลาครูบาอาจารย์บอกสภาวะ เรายังไม่เห็นหรอก ต้องภาวนากันอีกพักใหญ่ จึงจะเห็นตามท่านนะ” ก็ได้ครับ จะกลับไปดูต่อครับ “จิตเราเดินมาได้ครึ่งทางของโซดาบันแล้วนะ” “จิตมันเดินปัญญาเองนะ” “ดี ภาวนาดี อดทนนะ ทำต่อไป แล้วจะได้ของดี” ก็ใช่สิฮับ ของดีของหลงพ่อคือ โซดาบัน ใครจะไม่อยากได้ พวกเราก็หลงใหลหัวทิ่มหัวตำ ไม่กล้าไปกินอาหารการภาวนาอย่างอื่น กลัวเสียแต้มสะสม “ไปทำอะไรมา! ติดเพ่ง” แหะ แหะ ไปกราบครูบาอาจารย์ที่...มาครับ “จิตมันหมอง เห็นมั๊ย” โอ๋ย โดนมนต์ดำแล้วสิเรา ซวยเลย ... “อย่าไปกดจิตอย่างนั้น ไม่เอา! เลิกปฏิบัติไปก่อนเลย” แต่ผมกำลังเดินจงกรมเข้มแข็งดีนะครับ ก็ได้ครับ หลงพ่อให้เลิกก็เลิก เดี๋ยวจะไปเป็นพระพรหม ต้องไปเฝ้าโรงแรม อดได้โซดาบัน... แล้วผมก็เลิกเพ่ง เลิกทำสมถะ แต่ไม่เลิกโง่!

        หลงพ่อเห็นบ้างไหมว่าหลงพ่อกำลังทำให้กรรมฐานดูกายดูจิตเริ่มแตกแยกกันรุนแรงขึ้น ด้วยความเข้าใจผิด? หลงพ่อเห็นรึยังว่าทำไมลูกศิษย์หลงพ่อถึงกร่างนัก? เที่ยวไปตามสำนักโน้นสำนักนี้ เอาหนังสือและซีดีหลงพ่อแจกเขาไปทั่ว ไปจับผิดเขา ไปเถียงว่าเขาสอนผิด ไปปรามาสลบหลู่ครูบาอาจารย์ จริงอยู่ หลงพ่อไม่ได้สอนให้เขาทำอย่างนี้หรอก แต่การภาวนาที่ผิดเพี้ยนตามรอยหลงพ่อ ทำให้ลูกศิษย์ตัวร้ายของหลงพ่อเกิดอัตตามานะแรงกล้าออกอาการผยองพองขนข่มเขาไปทั่วบ้านทั่วเมือง ผมก็เคยทำฮับ เห็นตัวเองในอดีตแล้วอายมาก เฮ้อ ทำเข้าไปได้ 

        หลงพ่อสอนว่า พวกเราต้องรักษาศีล และหลงพ่อมีอิทธิพลทางใจทำให้เราหันมาเข้าวัด ทำบุญ เดินสายไปกราบครูบาอาจารย์ที่โน่นที่นี่ หมั่นฟังธรรม (ส่วนใหญ่ก็ cd หลงพ่อแหละ) และภาวนากันทั้งบ้าน ทำให้คนจำนวนมากรู้สึกดี ซาบซึ้งในพระคุณหลงพ่อเหลือเกิน ความรู้สึกดีๆ นี้ กลบความเฉลียวใจว่าตนเองควรจะตรวจสอบคำสอนของหลงพ่อกับครูบาอาจารย์อื่นๆ และกับคำสอนของพระพุทธเจ้าเสียสิ้น เราคิดไม่ถึงว่าบางทีโจรในเครื่องแบบหรือขี้เมาในชุดสูทก็จดจำพุทธวัจนะหรือปรัชญาชั้นเลิศมาเล่าให้เราฟังได้อย่างน่าเคลิบเคลิ้ม ใช่แล้ว หลงพ่ออย่าลืมนะครับว่าที่หลงพ่อสอนเขาอย่างนั้น เพราะรู้อยู่ว่าตัวเองจะได้อาศัยผ้าเหลืองทำมาหาลาภ ยศ สรรเสริญต่อๆไป ที่จริงหลงพ่อก็อาศัยจำมาจากที่โน่นที่นี่ ของคนโน้นคนนี้แล้วมาใส่ปากตัวเองสอน หลงพ่อไม่เคยศีลไม่เคยมีดวงตาเห็นธรรมด้วยตนเองแม้สักนิด 

        หลงพ่อตั้งใจขโมยพระธรรมคำสอนที่พระพุทธองค์ยอมลำบากสะสมบารมี 30 ทัศมาตั้ง 20 อสงไขย กับอีกแสนมหากัป นับตั้งแต่ทรงเริ่มอธิษฐานในใจ หรือหากนับกันแค่หลังจากทรงได้รับคำพยากรณ์ก็ 4 อสงไขย กับเศษอีกแสนมหากัป มันยาวนาน นาน นาน แสนนาน ล้านนาน โกฏินานแค่ไหน! หลงพ่อคงนึกไม่ออกหรอก กว่าจะทรงตรัสรู้ ได้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ พบโลกุตรธรรมอันวิเศษมาถ่ายทอดเพื่อช่วยเหลือสรรพสัตว์ และยังจะความยากลำบากของพระอริยสาวกอีกนับไม่ถ้วนองค์กว่าจะได้บรรลุธรรมตามพระองค์ท่าน แล้วลำบากธาตุขันธ์สืบทอดพระสัทธรรมแท้ๆ กันมาให้พวกเรา แต่หลงพ่อขโมยมาง่ายๆ ไม่ได้ลงทุนภาวนาจริงๆจังๆ แค่อ่านบ้าง ฟังบ้าง คิดๆ เอาบ้าง อาศัยประสบการณ์แปลกๆ ปลอมๆ ของตัวเองบ้าง แล้วหลงพ่อก็คัดเอาเฉพาะที่ชอบๆ มาดัดแปลงตามใจตนซะงั้น นี่เรียกว่าละเมิดลิขสิทธิ์ทาง “ปัญญา” ของแท้เลยนะครับ

        พระพุทธเจ้าห้ามพระภิกษุสอนนิพพานหากภิกษุนั้นยังมิได้เห็นนิพพานแจ้งด้วยตนเองนะครับ ถ้าจะสอนแบบปริยัติก็ว่าไปอย่าง เราก็รู้อยู่ว่ากำลังเรียนปริยัติ แต่นี่หลงพ่อสอนปฏิบัติจนถึงมรรคผลนิพพานโดยที่ไม่ได้รู้จริงเห็นจริงสักกระผีกริ้น (ศัพท์คำนี้โบราณ ผมรู้ว่าหลงพ่อชอบ) 

        หลงพ่อมิได้รักครูบาอาจารย์เลย หลงพ่อจำไม่เคยได้ว่าไปกราบหลวงปู่ดูลย์ หลวงปู่สิม หลวงปู่มหาบัว วันไหนกันแน่ ถ้าไม่ใช่เพราะหลงพ่อโกหกจนเบลอ ก็เพราะหลงพ่อป่วยเป็นโรคจิตเภท ความจำสั้น ความจำแปรปรวนไปหมด

        หลงพ่อมิได้รักพระพุทธเจ้าอย่างที่แกล้งสอนให้เรารักท่านอยู่ปาวๆ หรอก ถ้ารักท่านจริงหลงพ่อจะไม่มีวันเอาคำสอนของพระองค์มาดัดแปลงพันธุกรรมจนเพี้ยนอย่างนี้ หลงพ่อมิได้รักพระสัทธรรมแท้เช่นกัน หลงพ่อจำอะไรในพระไตรปิฎกไม่ค่อยได้ ยกแต่ตัวอย่างซ้ำๆ ทั้งๆ ที่พูดบ่อยๆ ว่า หลงพ่อไม่ชอบอ่านหนังสือธรรมะชั้นหลัง หลงพ่ออ่านแต่พระไตรปิฎก ปีหลังๆ มานี้หลงพ่อแกล้งชมครูบาที่วัดว่าเป็นฝ่ายวิชาการให้หลงพ่อถามเวลาติดขัด ก็เพราะหลงพ่อจะได้ไม่ต้องจำไงฮับ เพราะไม่อยากจำ สู้เอาคำสอนที่ตัวเองคิดค้นเองมาสอนดีกว่า

        หลงพ่อไม่เคยรักใครเลย...   

        หลงพ่อครับ แล้วหลงพ่ออกตัญญูต่อพระพุทธเจ้าหรือเปล่าครับ? หลงพ่อทำทุกอย่างที่พระองค์ห้าม บวชเป็นภิกษุแต่ผิดศีล อวดอุตตริมนุสธรรมจนปาราชิก แล้วก็ไม่ยอมลาสิกขาบท ยังอาศัยผ้ากาสาวพัสตร์หาลาภสักการะ ที่สำคัญสอนขัดแย้งกับสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงสอน แต่ยังอาศัยอยู่ในร่มบวรของพระพุทธศาสนา หลงพ่อทำให้คนแคล้วคลาดพลาดจากมรรคผลนิพพานเพราะสอนภาวนาผิดๆ แก่พวกเขา นี่ไม่ยิ่งแย่ไปกว่าฆ่าเขาอีกหรือครับ? ดีไม่ดีเขาไปฆ่าคนอื่นๆต่อ หลงพ่อสอนให้จิตเขาจำผิดๆ เท่ากับฆ่าเขาซ้ำซ้อนหลายๆ ชาติเลยนะครับ

        หลงพ่อใจร้ายใจดำเหลือเกิน...

        แล้วยังงี้ผมควรกตัญญูต่อหลงพ่อ หรือต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์มากกว่ากันล่ะครับ? 

        ผมเคยรักและสงสารหลงพ่อมาก อยากแสดงความกตัญญูโดยการช่วยให้หลงพ่อมีดวงตาเห็นธรรม (ครับ ผมอาจเอื้อมมาก แต่ผมติดนิสัยนี้มาจากหลงพ่อนะ) แต่คงช่วยไม่ได้ใช่ไหมครับ? เพราะหลงพ่อมีอธรรมะเป็นของตัวเอง ผมพิจารณาแล้ว (ครับ หลงพ่อห้ามพิจารณา แต่ให้‘รู้ซื่อๆ’ แต่ผมดื้อ) ว่าผมรักพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์แท้ๆ มากกว่าหลงพ่อแน่นอน พระพุทธเจ้าเป็นบิดาของเราในวิวัฏฏะ เราจะต้องกตัญญูต่อพระองค์ท่านเหนือสิ่งอื่นใด แม้ผมยังกิเลสหนา ปัญญาทึบอยู่มาก แต่ผมไม่กลัวการล้มแล้วลุกขึ้นมาใหม่ ถ้ามันบอบช้ำมากยังเดินไม่ไหว ก็คลานเอา คนเราโง่กันได้ ตาบอดกันได้ อย่างที่ผมเสียเวลาไปเดินตามหลงพ่อ แต่ถ้าเราตั้งใจจะแก้ไขตนเองเมื่อรู้ว่าพลาดไปแล้ว เราคงไม่โง่ซ้ำซ้อนหรอกครับ ผมรู้ว่าผมยังขี้ขลาด ยังอาลัยอาวรณ์กิเลส แต่ผมไม่ขอทรยศต่อพระรัตนตรัย ผมเชื่อมั่นเสมอว่า เราต้องมีใจที่กล้าหาญ เด็ดเดี่ยวที่จะฝืนทำในสิ่งที่ถูกต้อง แม้จิตใจและร่างกายจะบอบช้ำอย่างหนัก ถ้าเราซื่อสัตย์ต่อพระธรรมแท้ เราก็จะไม่ห่างจากพระธรรมแท้แน่นอน ผมไม่กลัวว่าจะถึงนิพพานช้ากว่าคนอื่น กิเลสใครกิเลสมันใช่ไหมครับ ต้องขัดเกลากันเอาเอง แต่ให้ไปเดินทางเอกแบบของหลงพ่อผมไม่เอาอีกแล้ว ทางเอกแบบขี้โกง ลัดสั้น ภาวนาง่าย สบายๆ ไม่ได้นำไปสู่นิพพานมังครับ?



        หลงพ่อเขียนกลอนเปล่า (Blank Verse) แสนไพเราะไว้บทหนึ่ง ลูกศิษย์หลงพ่อต้องเคยได้ยินทุกคน แต่หลงพ่อก็คือหลงพ่อ เขียนได้สวยงามก็แต่คำศัพท์ ใจความที่แท้จริงหลงพ่อซ่อนไว้ไม่ให้ใครรู้ ผมถอดรหัสมาได้แค่นี้  
 
        หนทาง ที่แท้จริง คือ เอกายนมรรค ยังมีอยู่  
        ผู้เดินทาง ที่มิได้เป็นมิจฉาทิฏฐิอย่างหลงพ่อ ยังไม่ขาดสาย 
        ลงมือเสียแต่วันนี้ แต่ต้องเดินให้ถูกทาง 
        ก่อนที่กระแสลมแห่งกาลเวลา เฉกเช่นกระแสลมวายร้ายอย่างลมปากและใจอสัตย์ของหลงพ่อ ที่ชักจูงพวกเราให้ลงมือกระทำการบิดเบือนพระธรรม 
        จะร่วมกันพัดพารอยพระบาทของท่านจางหายไป เพราะเราทุกคนต่างลงแรงลบเส้นทางที่พระพุทธองค์จารึกไว้ ด้วยใจบอดและสองมือเปื้อนเลือดบาปของเราเอง เราช่วยกันเผยแพร่ธรรมะปลอมของหลงพ่อไปทั่ว 
        เพราะถึงเวลานั้น ซึ่งคงอีกไม่กี่เดือนกี่ปีนี้แน่นอน ถ้าไม่ช่วยกันกอบกู้ 
        พวกเราก็จะต้องระหกระเหินไร้ทิศทาง เพราะพระสัทธรรมแท้จะถูกกลบเกลื่อน ถูกลบเลือนไปจากเมืองไทย และทั่วโลก ด้วยซีดีและหนังสือพระปราโมทย์ 
        ไปอีกนานแสนนาน จนกว่าจะใช้กรรมนี้จนหมดสิ้นไป ซึ่งจะยาวนานกี่อสงไขย จะแคล้วคลาดกับพระพุทธเจ้ากี่พระองค์ เราจะไม่มีวันรู้เลย 

        จิตใจเราจะมัวมืดบอด อยู่กับลัทธิดูเงาจิตที่ผิดๆ ฝึกสติปัดฐานเพี้ยนๆ จนช่ำชอง 

        เราจะวนเวียนไม่มีวันสิ้นสุด เพราะเราช่วยกันเผยแพร่สื่อ(อ)ธรรมะของหลงพ่อไว้เอง 

        เราจะทุกข์ทรมานเพราะยิ่งภาวนา เรายิ่งพ่ายแพ้ต่อกิเลส ก็หลงพ่อห้ามกดข่มบังคับ ใจมันไม่มีกำลังจะทานกิเลสไหวหรอก แค่ตั้งใจจะรักษาศีลนั้นช่วยได้เป็นครั้งคราว หากขาดกำลังสมาธิ ขาดกำลังใจและคำชี้แนะจากครูบาอาจารย์แท้ๆ ขาดศรัทธา ขาดปัญญาที่จะรู้ว่าทางไหนคือเส้นทางที่ถูกต้อง ขาดโยนิโสมนสิการที่จะพิจารณาว่า ‘สติปัฏฐาน 4’ ที่พระพุทธเจ้าสอนไม่เหมือนกับ ‘สติปัดฐาน’ (มันปัด ฐานคือสมาธิ ทิ้งไป แล้วเอาอรรถาธิบายมั่วๆซั่วๆมาใส่เยอะแยะไปหมด น่ะฮับ) ที่หลงพ่ออุปโลกน์  

        แล้วเราก็คงจะเวียนขึ้นๆ ลงๆ กามาวจรภูมิ ตกอบายภูมิกันอีกนานแสนนานล้านนานจริงๆ 

        หลงพ่อเคยเล่าเองนะครับว่าในคัมภีร์มหายานบันทึกไว้ถึงนักบวชที่สอนผิดพลาด อาจจะไม่ตั้งใจ แล้วท่านต้องชดใช้กรรมยาวนานมากๆ ก็ทำนองเดียวกันล่ะครับ หากเราช่วยเผยแพร่ธรรมะที่ผิดเพี้ยนให้แก่ผู้อื่น เราก็จะต้องชดใช้กรรมนั้นเหมือนกันไม่ใช่เหรอครับ? เกิดมาอีกกี่ชาติภพ ก็ต้องใช้หนี้รับวิบาก ด้วยการไม่มีโอกาสพบพระสัทธรรมแท้ หรือหากพบ เราก็จะโง่ ตามัวตาบอด เซ่อๆซ่าๆ ไม่รู้ไม่ชี้ไม่เห็น หูก็เกเรฟังของดีแล้วพาลไม่รู้ไม่เข้าใจ เพราะมันจะถูกบดบังด้วยวิบากกรรม ว่าแต่วิบากของหลงพ่อที่ตั้งใจจะเผยแพร่ธรรมะผิดๆ นี่จะกี่แสนเท่าของพวกเราน้อ?

        สยดสยองจนผมต้องลุกขึ้นมาตั้งคำถามหลงพ่อนี่ล่ะครับ...

        หลงพ่ออย่ารีบตามลงไปอยู่เป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกับเทวทัตนะครับ เอ้อ! แต่แม้แต่ท่านคงไม่รับหลงพ่อไว้ร่วมขุมหรอก ท่านสำนึกแล้วและก็ขอขมาต่อพระพุทธเจ้าแล้วด้วย แต่หลงพ่อของเราสิยังเริงร่าอยู่เลย หลงพ่อสอนพวกเราเองมิใช่รึว่า ‘เราสร้างนรกของเราเอง’ หลงพ่อเคยเปรยๆ ว่า ‘เห็นทีจะต้องขุดหลุมไว้ในวัด(สวนสันติธรรม)สำหรับไว้อยู่หน้าหนาวตอนหลงพ่อแก่ๆ’ ฮี่ หลงพ่อรู้อนาคตตัวเองนิ ในนรกหนาวยะเยือกกว่านั้นมากไม่ใช่เหรอครับ หลงพ่อขุดไว้ลึกกว่าพระเทวทัตอีกกระมัง นั่นท่านยังเล่นแค่กับพระพุทธเจ้า แต่หลงพ่อเล่นกับพระสัทธรรม หลงพ่อทำลายจากใจกลางพระรัตนตรัยเลย ถ้าสำเร็จ พระสัทธรรมแปรรูปไปแล้ว พระพุทธและพระสงฆ์ก็ต้องแปรรูปไปอัตโนมัติด้วย ใช่ไหมฮับ? เหมือนอย่างตอนนี้ที่หลงพ่อสร้างมาตรฐานพระอรหันต์ พระโสดาบัน และพระสกิทาคามีใหม่หมด อีกไม่นานหลงพ่อคงบัญญัติพระอนาคามีใหม่ออกมา

        ที่ผมขอร้องว่าหลงพ่ออย่ารีบลงไปอยู่ข้างล่าง เพราะผมกำลังสนุกกับการขุดคุ้ย ผมกะเขียนหลายๆ ภาค เผื่อฮอลลีวู้ดจะซื้อไปทำหนัง เขาสร้าง 7 Years In Tibet มาแล้ว ทำไมจะสร้าง 10 Years With A Pseudo–Arahant ไม่ได้ ถ้าตอนนั้นหลงพ่อลี้ภัยไปอยู่อเมริกากับศิษย์พี่ยันตระแล้ว หลงพ่อจะขอสมัครกับฮอลลีวู้ดแสดงเป็นตัวหลงพ่อเอง เขาคงยินดีปรีดาปราโมทย์ยิ่งนัก

        แต่หลงพ่อไม่ต้องวิตกกังวลนะครับ (หลงพ่ออย่าลืมรู้สึกตัวว่ากังวลด้วยฮับ) ผมจะไม่โจมตีหลงพ่อด้วยเรื่องชุดออกกำลังกายอะไรพรรค์นั้นหรอกครับ (แต่ไม่ได้บอกว่าจะไม่อ่านที่คนอื่นเขียน แล้วขำกลิ้งนะครับ ฮี่) ก็หลงพ่อไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นพระภิกษุ ทำไมหลงพ่อจะออกกำลังกายบ้างไม่ได้ ไม่แปลกนิ ... ส่วนเรื่องมนต์ดำเรื่องไสยศาสตร์อะไรนี่ผมก็จะไม่เอามาพูดหรอก ว่าหลงพ่อคงเล่นไม่เลิก หลงพ่อสนุกสนานกับการปั่นหัวคนให้กลัวหัวหดไปวันๆ เครื่องรางของขลังมนตราคาถาแปลกๆ สะพัดในวัดหลงพ่อยิ่งกว่าเพลงและของเล่นบอลโลกซะอีก ก็หลงพ่อไม่ใช่ชาวพุทธแท้ๆ ซะหน่อย แล้วของพวกนี้ ผมหมายถึงพระเครื่องที่หลงพ่อปลุกเสกลงยันต์ด้วยมือตัวเองแล้วให้ลูกศิษย์เอาไปแช่น้ำทั้งกินทั้งอาบ ต่อไปอาจทำเงินเป็นสิบเป็นร้อยล้านให้หลงพ่อก็ได้ ฮี่ฮี่ ... ประเด็นเงินทองอื้อฉาวของวัดผมก็ไม่สนใจ ก็หลงพ่อไม่ใช่พระแล้วนิ ปาราชิกไปตั้งแต่เริ่มบวช ก็ต้องเก็บเงินได้ เป็นค่าตรวจการบ้านแต่แพงหน่อย ไม่ผิดวินัยหรอก แต่ว่าเบียดบังเงินสงฆ์แล้วตกนรกรึเปล่าใครจะไปสน ก็หลงพ่อสอนเองว่า “หมั่นดู(เงา)จิต ให้ชำนิชำนาญไว้นะ สมมุติว่าเราตกนรกไป พอเห็นหน้ายมบาลแล้วตกใจกลัว ก็แค่รู้ว่าตกใจกลัว พอมีสติรู้สึกตัวเราก็พ้นจากนรกทันที” ...ง่ายนะ เห็นมั๊ย... ส่วนจะพ้นขุมนั้นแล้วไปโผล่ขุมอื่นต่อรึเปล่าก็ไม่ใช่ปัญหาอีกนั่นแหละ ก็รู้สึกตัวไปเรื่อยๆ สิฮะ เวลาผ่านไปนับอนันตกาลล้านล้านอสงไขยก็ขึ้นมาเป็นเปรตเองแหละ

        หลงพ่อเก่งกล้าสามานย์ เฮ้ย! ขอขมาฮับ สามารถมาก สอนมิจฉาสติจนลูกศิษย์ไม่กลัวนรก แล้วไงฮะทีนี้ พอพ้นอำนาจหลงพ่อออกมา เราก็ทำตามหลงพ่อเปี๊ยบ เขียน-คุย-คุ้ยข่าวเรื่องหลงพ่อกันแบบไม่กลัวนรก ฮี่ ฮี่
        
        หลงพ่อครับ ผมคร่ำครวญ แล้วก็รู้ตัวนะครับว่าคร่ำครวญ แต่มันไม่เห็นดับ แล้วผมก็จะไม่เลิก ใครจะทำไม? เห็นไหม นับวันผมชักจะพาลเหมือนหลงพ่อขึ้นทุกที ก็ผมเสียใจที่โง่ อ่อนแอ ซื่อบื้อ หลงเชื่ออยู่นาน หลงพ่อทำหน้าใสซื่อ ผุดผ่อง อ้วนท้วน มาดนุ่มๆ อ่อนโยน เสียงทุ้มๆ มีอารมณ์ขันกำลังดีมาหลอกลูกๆ ทุกวัน (เอ่อ... หลงพ่อไปทำสปาหน้าเด้งที่ร้านเดียวกับสมภารธรรมกายหรือเปล่าฮับ? หรือว่าหลงพ่อดื่มคอลลาเจนกับรังนกทุกวัน ฮี่)

        แต่ก็ดีนะฮะ ผมถือโอกาสที่ตาสว่างกระจ่างใสเลิกเห็นกงจักรเป็นดอกบัว ใช้เป็นข้ออ้างไปดูหนัง ฟังเพลง ท่องเน็ต เที่ยวเล่น ซื้อของเล่น เหล่สาวทุกวันๆ อยู่นานเพื่อให้มันลืมกรรมฐานวิปลาสของหลงพ่อไปก่อน ล่าสุดผมยังทดลองเลียนแบบหลงพ่อสมัยหนุ่มๆ ที่หลงพ่อเล่าว่า แค่หลงพ่อหันมองควับ หมามันยังกลัวจนวิ่งหนีหางจุกตูด วันก่อนผมกัดกะหมาสะใจดีฮะ ตวาดแค่ทีสองที หมาวิ่งหนีหางจุกตูดทั้งฝูงเหมือนกันเลย ผมก็ขี้โมโหเหมือนหลงพ่อล่ะครับ

        หลงพ่อบอกว่า ‘พวกขี้โมโห โทสะกล้า ปัญญาก็กล้า’ ผมก็ต้องฉลาดจัดจ้าเหมือนหลงพ่อด้วยครับ ถ้างั้น ฮี่ฮี่ พบกันภาคสองเร็วๆ นี้นะครับ หลงพ่อไม่ต้องผวาฮับ ผมไม่คิดจะไปเขียนอะไรสะกิดสะเกาคนอื่นๆ ให้ตาสว่างหรอก ผมไม่ใช่พระโพธิสัตว์ ผมไม่สนการช่วยคนอื่น ไม่หนุก ใครอยากเดินตามปราโมทย์ปริพาชก ก็เรื่องเขา (เออ.. แต่หลงพ่อแปล ‘ปริพาชก’ ถูกใจผมมากๆ “ปริแปลว่ารอบ ปริพาชก แปลว่า พาชกไปรอบๆ” ช่างเหมือนลูกศิษย์หลงพ่อเลย ฮ่า ฮ่า ปราโมทย์ปริพาชก เหมาะสมที่สุดแล้ว) ผมน่ะชอบต่อกรกับหลงพ่อมากกว่า นานๆ จะได้พบคู่ชกระดับ ‘เก๋าเซียน’ (โป๊ยเซียนเอาไม่อยู่ฮับ น้อยไป แล้วคำว่า เก๋า หลงพ่อคงรู้นะฮะว่าแปลว่าอะไรได้อีก ฮี่ฮี่ ... ฮ่งฮ่ง) เฮ้อ! วันใดที่หลงพ่อไม่อยู่ ผมคงคิดถึงอารมณ์ขันเจ็บๆ แสบๆ ของหลงพ่อเป็นที่สุด ทุกมุขที่หลงพ่อสอนหรือเหน็บคนอื่น แท้ที่จริงแล้ว สามารถย้อนรอยดาบเข้าหาหลงพ่อได้หมด เก๋าเซียนจริงๆ!

        To be continued ครับ กรกฎาคมนี้แน่นอน จองตั๋วพร้อมป๊อบคอร์นล่วงหน้าที่เน็ตใกล้บ้าน เอ้ย.. ในกุฏิท่านคร้าบ 
                     
Bird of Paradise