แด่เธอผู้มาใหม่


แด่เธอผู้มาใหม่
หลายๆท่านที่เพิ่งรู้จักเว็บไซต์ของกลุ่มต่อต้านการสอนแบบพระปราโมทย์ ปาโมชฺโช อาจจะเป็นผู้ที่เพิ่งได้ศึกษาวิธีการปฏิบัติที่โฆษณาชวนเชื่อว่า เร็ว ลัดสั้น สบายๆ ไม่ต้องลำบากก็เข้าถึงมรรคผลได้ หรือ อาจจะเป็นกลุ่มที่ได้ปฏิบัติตามแนวลัดสั้นนี้มานานหลายปี แต่ไม่ได้เข้าถึงข่าวสารทางอินเตอร์เน็ท เมื่อเข้ามาอ่านในเว็บไซต์แห่งนี้แล้ว อาจจะเกิดความสับสน งงงวย ว่าเกิดอะไรขึ้นในวงกรรมฐานของชาวพุทธในประเทศไทย
ทางเว็บจึงขอเรียงลำดับเหตุการณ์ต่างๆ เพื่อให้ท่านทั้งหลายเข้าใจได้ง่ายขึ้น และ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในการปฏิบัติภาวนาให้ดำรงไว้แต่ทางที่ถูกต้องสมควร สืบต่อให้สาธุชนรุ่นหลังให้ยังสามารถเข้าถึงธรรมและการปฏิบัติแท้ๆขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตลอดกาลนาน

ถาม. พระปราโมทย์เป็นใคร?
ตอบ. พระปราโมทย์ หรือ สันตินันท์ในวงการเว็บบอร์ดศาสนา เริ่มมีลูกศิษย์ลูกหาตั้งแต่ครั้งเป็นฆราวาส ซึ่งได้แอบอ้างครูบาอาจารย์ที่เป็นที่นับถือในวงกว้าง เช่นหลวงปู่ดูลย์ หลวงปู่เทสก์ หลวงพ่อพุธ หลวงปู่สิม เป็นต้น ว่ารับรองตนเองนั้นได้อริยะผลขั้นโสดาบันและสกิทาคามี แล้ว เริ่มเข้ามามีบทบาทในสังคมเว็บบอร์ดเช่น พันทิปและลานธรรม เมื่อสิบกว่าปีก่อน โดยจะตอบปัญหาทางธรรมะและทางปฏิบัติ จนคนทั้งหลายยกย่องเพราะเข้าใจว่าเป็นผู้มีภูมิธรรมสูง ประกอบกับการกล่าวอ้างถึงคำรับรองของครูบาอาจารย์หลายๆองค์ที่สันตินันท์ยกมา ทำให้ดูน่าเชื่อถือมากขึ้น จากศิษย์ไม่กี่คนเริ่มขยายตัวเป็นวงกว้างหลายร้อยคนในภายหลัง 
สันตินันท์เคยมีศิษย์ใกล้ชิดกลุ่มแรกเป็นกลุ่มผู้ทำงานในราชการ ในยุคก่อนอินเตอร์เน็ท และต่อมาเมื่อศิษย์กลุ่มแรกนี้จับได้ว่าหลอกลวง จึงแตกสลาย และหมดศรัทธาไปหมดภายในครั้งเดียว
 หลังจากนั้นสันตินันท์จึงเริ่มมาหาศิษย์กลุ่มใหม่จาก เว็บบอร์ดพันทิพ ลานธรรม วิมุตติ จนกลายเป็น ศิษย์ลานธรรมรุ่นแรกๆ โดยอ้างว่า วิธีปฏิบัติของตนเองเป็นสายตรง เหมาะสำหรับคนเมือง ง่าย สบาย ลัดสั้น มาเป็นสิ่งจูงใจ

ถาม. เว็บไซต์นี้เป็นกลุ่มแรกที่รู้ว่าพระปราโมทย์หลอกลวงใช่หรือไม่?
ตอบ. กลุ่มศิษย์ที่รู้ถึงการหลอกลวงของพระปราโมทย์ หรือ สันตินันท์นั้นมีมาตั้งแต่สมัยพระปราโมทย์ยังเป็นฆราวาสอยู่เมื่อกว่า 15 ปีก่อน คือศิษย์ฆราวาสในสายงานราชการกลุ่มแรก เหตุการณ์ที่ทำให้ศิษย์ทั้งหลายเสื่อมศรัทธา เนื่องจากเหตุที่ว่า สันตินันท์ซึ่งขณะนั้นได้บอกกับศิษย์กลุ่มนั้นว่ามีภูมิธรรมถึงพระอนาคามีแล้ว แต่มีเหตุให้แสดงเห็นชัดว่าไม่ได้มีภูมิธรรมถึงระดับพระอนาคามีจริง ทำให้ศิษย์กลุ่มนั้นเสื่อมศรัทธาถึงกระทั่งยึดรถยนต์และบ้านที่ซื้อให้ใช้คืน 
แต่สันตินันท์กลับมาเล่าให้ศิษย์รุ่นหลังฟังว่า ที่โดนศิษย์ยึดบ้านยึดรถนั้นเพราะสันตินันท์ปฏิเสธที่จะฝากงานให้เขา แล้วยังคุยฟุ้งเรื่องฐานะตัวเองว่าเคยได้เงินเดือนหลายแสน แต่แท้จริงแล้วได้เงินเดือนหมื่นกว่าบาท แถมยังต้องเจียดเงินให้เป็นค่าดูแลภรรยาเก่าอีก เดือนละ ๕,๐๐๐ บาท หลังจากแต่งงานกับแม่ชีอรนุช หรือ นางอรนุช สันตยากร แล้ว
ศิษย์ที่รู้ความจริงในข้อนี้ส่วนใหญ่มีอายุเกิน 60 ปี บางท่านเก็บตัวปฏิบัติเงียบๆ บางท่านยังมีที่พักอยู่ในสถานที่ปฏิบัติภาวนาที่เรารู้จักกันดี  ในขณะที่ศิษย์ลานธรรมซึ่งเป็นรุ่นต่อมา แทบไม่มีใครที่รู้เรื่องอดีตในครั้งนั้น ทั้งๆที่หลายๆคนก็รู้จักกับพยานผู้เห็นเหตุการณ์อย่างไม่รู้ตัว 
ศิษย์ลานธรรมส่วนใหญ่จึงไม่ได้ระแคะระคายในเรื่องดังกล่าว ส่วนใหญ่มักเดินทางไปกราบหลวงพ่อมนตรี อาภัสสะโร ที่สวนพุทธธรรม ป่าละอู เพื่อสอบถามแนวทางปฏิบัติ ให้ก้าวหน้ากว่าเดิมเพราะสันตินันท์อ้างอยู่เสมอๆว่าสนิทกับหลวงพ่อมนตรีมาก และมีแนวทางปฏิบัติที่เรียนรู้มาจากหลวงปู่ดูลย์เหมือนกัน แต่เมื่อศิษย์ลานธรรมกลุ่มดังกล่าวไปกราบหลวงพ่อมนตรีในช่วงหลายๆปีที่ผ่านมาและใช้ความสังเกตบ้าง หลายคนจะพอจับความได้อีกอย่างหนึ่ง ว่าจริงๆแล้ว สันตินันท์แอบอ้างเองทั้งนั้น

ถาม. ในเมื่อรู้เรื่องกันมาตั้งนานแล้ว ทำไมถึงเพิ่งมาต่อต้านกันตอนนี้?
ตอบ. ทางกลุ่มเรานั้นมาจากศิษย์รุ่นปัจจุบัน ที่เรียนจากสวนสันติธรรม ซึ่งเป็นช่วงที่การดูจิตตามแนวนี้ได้รับความนิยมอย่างมากให้หมู่ชาวพุทธ หลายๆคนทิ้งการทำสมถะแบบพระป่า ครูบาอาจารย์หลวงปู่มั่น มาศึกษาแนวนี้ เพราะได้รับการโฆษณาชวนเชื่อว่า ง่าย ลัดสั้น ได้มรรคผลโดยไม่ต้องทำสมถะ ไม่ต้องนั่งนานๆ หรือเดินจงกรมจนปวดขา จะดูหนังฟังเพลงก็ได้ขอให้ดูจิตไป เดี๋ยวบรรลุเอง ประกอบกับคำเทศน์ที่แจกกันตามซีดีนั้น ฟังแล้วสนุก เพลิดเพลิน อ้างอิงพระไตรปิฎก ครูบาอาจารย์ และที่สำคัญช่วงส่งการบ้านนั้น มีการกล่าวอยู่หลายๆครั้งว่า มีหลายคนที่มาเรียนกับหลวงพ่อปราโมทย์เพียงไม่นาน และส่วนมากไม่เคยนั่งสมาธิ หรือ ทำสมาธิไม่เคยได้ ก็ได้โสดาปัตติผลไปครอบครอง เช่น อ. สุรวัฒน์ หมอณัฏฐ์ ครูบาอ๊า คุณมาลี อ.จุณลักษณ์(หนุ่ย) รวมถึงแม่ชีอรนุช และอีกหลายๆคนที่ไม่ได้เอ่ยถึง ซึ่งยิ่งทำให้น่าเชื่อถือและชวนให้เคลิ้มฝันว่า มรรคผลไม่ไกลเกินเอื้อมจริงๆ และไม่ต้องเพียรทำสมถะด้วย ซึ่งกลุ่มเรานั้นและเชื่อว่าอีกหลายๆท่านไม่เคยทราบความจริง เรื่องหลวงพ่อมนตรี หรือ พระสกิทาคามีกับอากัปกริยาไม่เหมาะสมเลย ถ้ารู้คงไม่โดนหลอก

ถาม. ใครเป็นกลุ่มแรกที่จุดชนวนให้ชาวพุทธได้ฉุกคิด ถึงความจริง?
ตอบ. กลุ่มแรกที่ทำกันกว้างขวางคือ กลุ่มที่บอกว่าเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อสงบ มนัสสันโต (พระสุปฏิปันโนรูปหนึ่งที่หลวงตามหาบัวกล่าวชมบ่อยๆ)โดยล๊อคอิน “Satonarai” "เกิดเป็นคนช่างยากแท้" และ "ใบลาน" ได้เริ่มการต่อต้านการสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ ในเว็บไซต์พันทิป เมื่อประมาณปี ๕๒ โดยนำเอาเทศนาของหลวงพ่อสงบ มาโพสในพันทิปดอทคอม ซึ่งตอนนั้นหลายๆท่านไม่เคยรู้จักเลยว่าหลวงพ่อสงบท่านเป็นใคร เพราะท่านไม่เคยออกมาแสดงตัวต่อสาธารณะชนเลย ทั้งๆที่บวชมาหลายสิบปี และเป็นพระที่หลวงตากล่าวชมเสมอ ช่วงนั้นสังคมในพันทิปต่อต้านกลุ่มลูกศิษย์หลวงพ่อ ทั้งยังต่อต้านหลวงพ่อสงบด้วยซ้ำเพราะความไม่รู้ว่าท่านเป็นใคร ผนวกกับข่าวลือเสียหายที่ถูกปล่อยออกมาเพื่อหลอกลวงไม่ให้ศิษย์ไปฟังท่าน เช่น ท่านถูกหลวงตาไล่ออกจากวัดป่าบ้านตาดมาแล้ว เป็นต้น ซึ่งได้พิสูจน์ภายหลังว่าไม่เป็นความจริง

ถาม. แล้วเริ่มระแคะระคายตอนไหน?
ตอบ. หลายๆท่านเริ่มระแคะระคายตั้งแต่ตอน ประกาศจากสวนพุทธธรรมป่าละอู เรื่องความเกี่ยวข้องของสวนพุทธธรรมป่าละอู กับสวนสันติธรรม ซึ่งเป็นวัดของหลวงพ่อมนตรี อาภัสสะโร ว่าไม่มีความเกี่ยวข้อง ทั้งทางส่วนตัว หรือ ปฏิปทา ซึ่งขัดแย้งกับคำพูดของหลวงพ่อปราโมทย์โดยสิ้นเชิง ว่าหลวงพ่อมนตรี รักและสนิทกับหลวงพ่อปราโมทย์ดั่งพี่ชาย

ถาม. เกิดอะไรขึ้นหลังจากสวนพุทธรรม ได้ประกาศออกไป?
ตอบ. พอหลายๆคนได้อ่านประกาศดังกล่าว ได้เกิดวิกฤติศรัทธาครั้งใหญ่ในหมู่ชาวสวนสันติธรรม หลายๆท่านได้เดินทางไปถามความจริงจากหลวงพ่อมนตรี หรือ คุณไกรศร (ผู้นำสารของหลวงพ่อมนตรี) จึงได้ทราบความจริง และได้ถอนตัวออกมาจากสวนสันติธรรม ในบรรดาคนที่ถอนตัวออกนั้น ยังมีคณะกรรมการของสวนสันติธรรมหลายท่าน ซึ่งถือได้ว่าศรัทธาถวายหัวแก่หลวงพ่อปราโมทย์และทำงานใกล้ชิดที่สุด ก็ได้ตัดสินใจลาออกเกือบทั้งหมด เนื่องจากเห็นพฤติกรรมที่น่าสงสัยของหลวงพ่อปราโมทย์มาตลอด เพียงแต่ด้วยความเกรงกลัวว่าอาจจะเป็นบาป จึงไม่กล้าคิดหรือสรุปความเอง เหลือเพียงไม่กี่คนที่ยังเชื่อมั่นศรัทธาต่อไป
หลังจากประกาศนั้นออกไป ทางบ้านอารีย์และ DMG ที่เคยนิมนต์ หลวงพ่อปราโมทย์ไปเทศน์อยู่เป็นนิจนั้น ได้ยกเลิกการนิมนต์ทั้งหมด โดยให้เหตุผลหลายๆอย่าง แต่จะเน้นไปทางที่ว่า เป็นการสอนที่ผิดเป็นหลัก
วิกฤติศรัทธาครั้งนี้ ถือว่าใหญ่หลวงนัก เป็นกรณีแรกๆที่ทำให้ผู้ศรัทธารู้ทันว่า  "หลวงพ่อปราโมทย์เป็นพระอรหันต์ และ แนวทางปฏิบัติของท่านนั้นถูกต้อง" ไม่ใช่ความจริง จนทำให้เกิดเรื่องอื่นตามๆมา เช่น
๑. สวนสันติธรรมถอดเอาบทความ"กว่าจะเป็นสวนสันติธรรม"ออกจากเว็บวิมุตติดอทเน็ท
๒. ประกาศแก้ตัวทั้ง ๑๐ ฉบับ (ซึ่งจับโกหกได้ไม่ยาก) ในเวลาไม่ถึง ๑ อาทิตย์
๓. ปล่อยข่าวลือเรื่องคุณไสย เพื่อห้ามไม่ให้ลูกศิษย์ที่ยังไม่รู้ความจริง เดินทางไป สวนพุทธธรรม ป่าละอู, บ้านอารีย์, DMG หรือ พูดคุยกับคนที่รู้ความจริงแล้วลาออกไป โดยขู่ว่าจะโดนคุณไสยแล้วภาวนาไม่ขึ้น
๔. ฟอร์เวิร์ดเมลล์กระจายข่าวเรื่องคุณไสย
๕. บทความแก้ตัวแทนหลวงพ่อปราโมทย์ โดยดังตฤณ (ที่โดนหลวงพ่อปราโมทย์หลอกใช้ โดยที่ไม่รู้ว่าหลวงพ่อปราโมทย์ หมั่นพูดลับหลังกับวงในเรื่องตนเอง ในทางกลับกันมาตลอด)
๖. บทความพิสูจน์คุณไสยในลูกประคำโดยใช้กล้องเกอร์เลียน โดยดังตฤณ 
๗. ดิสเครดิต กรรมการที่ลาออกไปและบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยนำบทความ "บันทึกยุทธภพ โดยสายลับตงฉั่ง" โพสและอีเมลล์ไปทั่วอินเตอร์เน็ท เพื่อปลูกฝังความเกลียดชังแก่บุคคลที่ถูกกล่าวถึง และยกย่องบุคคลที่ยังศรัทธาต่อเจ้าสำนักอยู่ เพื่อให้คนที่อ่านแล้วเกลียดชัง จะได้ไม่อยากไปสอบถามความจริง
หลังจากเกิดเรื่องระลอกใหญ่ ทางสวนสันติธรรม จึงงดการนิมนต์พร้อมทั้งถอดไฟล์เสียง และ หนังสือ"แก่นธรรม" เจ้าปัญหา ออกจากเว็บ แต่ยังคงกระจายเรื่องคุณไสยอยู่เป็นระยะๆ เพื่อข่มขู่ผู้คนให้หวาดกลัว และไม่กล้าไปสอบถามความจริงที่สวนพุทธธรรม ต่อมาจึงเกิด อีเมลล์ ๓ ฉบับ จากสวนพุทธธรรมที่บอกกล่าวและเล่าความจริงโดยละเอียดอีกครั้ง
อีเมลล์ ๓ ฉบับนี้ได้สร้างความสั่นคลอนในบรรดาหมู่ศิษย์สวนสันติธรรมอีกระลอก แต่แล้วอีเมลล์ดังกล่่าวก็ถูกบิดเบือนไป โดย สาวกของสวนสันติธรรม ที่บอกว่าตนเป็น "สายลับตงฉั่ง" โดยใช้ล๊อคอิน "ประมุขพรรคบัวขาว" ในพันทิพดอทคอม โดยอ้างความสนิทของตนกับหลวงพ่อมนตรี สวนพุทธธรรมป่าละอู และใส่ร้ายคุณไกรศร ผู้นำสาส์นจากป่าละอูว่า เป็นคนปั้นแต่งสาส์นต่างๆเอง โดยหลวงพ่อมนตรีมิได้มีสวนรู้เห็นใดๆทั้งสิ้น เป็นกระทู้ร้อนแรงในพันทิพ โดยมีสาวกสวนสันติธรรมร่วมกันเข้ามาด่า สาปแช่งซ้ำเติมเป็นระลอกๆ
โดยเหตุนี้ หลวงพ่อมนตรีเล็งเห็นว่าการนำสารจากท่านไปบอกกล่าวนั้น ถูกบิดเบือนไปอย่างไม่ถูกต้อง และทำความเดือดร้อนแก่ผู้นำสาส์น ทางสวนพุทธธรรมโดยหลวงพ่อมนตรี จึงได้นัดวันที่จะเคลียร์ยืนยันความถูกต้องทั้งหมด จึงเป็นที่มาของ ๒๖ มีนาคม ๒๕๕๓ ซึ่งวันนั้นมีผู้คนได้ทราบความจริงไปหลายๆท่าน โดยเฉพาะยืนยันความถูกต้องของอีเมลล์ ๓ ฉบับว่าเชื่อถือได้ 100% และกล่าวถึงวิธีปฏิบัติกรรมฐานที่ถูกต้อง

ถาม. แล้วกลุ่มแอนตี้วิมุตตินั้น รู้ได้อย่างไรว่า หลวงพ่อปราโมทย์สอนผิด และ ไม่ได้เป็นพระอรหันต์?
ตอบ. ทางกลุ่มแอนตี้วิมุตตินั้น ขอไม่วิจารณ์เรื่องคำสอน เนื่องจากครูบาอาจารย์พระป่าหลายๆท่านได้กรุณาออกมาช่วยแก้ไขและชี้ทางสว่าง พร้อมทั้งชี้จุดผิดอย่างเด่นชัดแล้ว เช่น หลวงพ่อสงบ หลวงพ่อมนตรี หลวงพ่อแบน หลวงพ่อทุย พระอาจารย์ตั๋น และอีกหลายๆท่าน ที่ขอสงวนการออกนาม
กลุ่มเรานั้นจะเน้นชี้ความผิดในพฤติกรรมทางโลก และการละเมิดศีล 5 ซึ่งไม่ใช่คุณสมบัติของพระอรหันต์ เช่น การโกหก พฤติกรรมปฏิบัติ และ ข้อวัตรต่างๆ โดยประกอบด้วยหลักฐาน และ บุคคลให้สอบถามได้เท่านั้น

ถาม.แล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป?
ตอบ. ทางกลุ่มแอนตี้วิมุตติได้เพียงแต่รักษาพระศาสนาและการปฏิบัติที่ถูกต้องไว้ ส่วนผู้ที่จะตัดสินใจเลือกทางเดินนั้น เป็นสิทธิของท่านนั้นๆเอง โดยใช้ปัญญาพิจารณาถึงเหตุและผล และหลักฐานต่างๆ ที่ทางเว็บได้นำเสนอไว้อย่างดีแล้ว ผู้ที่ได้ทราบความจริงแล้ว ท่านสามารถทำหน้าที่ของพุทธบริษัทสี่ ที่พระพุทธองค์ทรงฝากพระศาสนาไว้ โดยการบอกกล่าวสิ่งที่ท่านได้ทราบมาแก่คนรอบข้าง หรือ แก่พุทธศาสนิกชนทั่วไป ตามกำลังของต